แผนผังเว็บไซต์
ถาม-ตอบ

คำถามทั่วไป

ถาม :
โครงการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ มีความเป็นมาและความจำเป็นอย่างไร ในช่วงเวลาที่ผ่านมา?
ตอบ :
กรมธนารักษ์ได้รับคำขอใช้ที่ราชพัสดุจากหน่วยงานราชการส่วนกลางในกรุงเทพมหานครเป็นจำนวนมาก ซึ่งกรมธนารักษ์ไม่สามารถจัดสรรที่ราชพัสดุ ให้แก่หน่วยงานเหล่านั้นได้อย่างเพียงพอ และได้พยายามแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงได้ริเริ่ม โครงการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ขึ้น โดยการขอคืนที่ราชพัสดุจาก 2 หน่วยงาน ได้แก่ การสื่อสาร แห่งประเทศไทย และกรมทางหลวง รวมเนื้อที่ประมาณ 450 ไร่ เพื่อนำมาวางผังจัดให้หน่วยงาน ที่ขอใช้พื้นที่จากกรมธนารักษ์ ประกอบด้วยหน่วยราชการต่าง ๆ ที่มีอยู่เดิมและ หน่วยงานใหม่ตามรัฐธรรมนูญ รวมถึงหน่วยงานที่เกิดจากการปฏิรูประบบราชการตามพระราชบัญญัติปรับปรุงโครงสร้างกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ. 2545 ที่ยังไม่มีสถานที่ทำการ หรือมีไม่เพียงพอ จำนวน 28 หน่วยงาน เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2545 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบในหลักการเกี่ยวกับโครงการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โดยให้กรมธนารักษ์เป็นศูนย์กลางรวบรวมและเสนอขออนุมัติงบประมาณค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างทั้งหมดของทุกส่วนราชการ โดยคำนึงถึงความจำเป็น เหมาะสม ยึดหลักให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยใช้งบประมาณค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด และควรให้ความสำคัญกับการออกแบบอาคารที่สามารถประหยัดพลังงานเพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดีต่อไป คณะกรรมการอำนวยการจัดระบบศูนย์ราชการ (กศร.) ได้ให้กรมธนารักษ์ดำเนินการตามนโยบายเกี่ยวกับการก่อสร้างศูนย์ราชการฯ รวม 2 ประการ คือ (1) เป็นอาคารประหยัดพลังงาน เพื่อให้ศูนย์ราชการฯ แห่งนี้ เป็นศูนย์ราชการที่ทันสมัยและประหยัดพลังงานแห่งแรกของ ประเทศไทย (2) ไม่ใช้งบประมาณในการก่อสร้างและไม่ก่อหนี้สาธารณะ จึงเกิดแนวทาง การดำเนินงานโดยใช้วิธีการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ (Securitization) ตามพระราชกำหนดนิติบุคคลเฉพาะกิจเพื่อการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ พ.ศ. 2540 ในการดำเนินงานได้จัดตั้ง บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) รับสิทธิการเช่าที่ดินจากกรมธนารักษ์ ทำการลงทุนและบริหารงานก่อสร้าง บริหารจัดการโครงการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ตลอดจนดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ โดย ธพส. จะนำสิทธิเรียกร้อง ในค่าเช่าพื้นที่อาคารศูนย์ราชการฯ ไปขายให้กับนิติบุคคลเฉพาะกิจที่จัดตั้งขึ้น และนิติบุคคล เฉพาะกิจจะดำเนินการออกตราสารหนี้หรือหน่วยลงทุนขายให้กับกองทุน นักลงทุน สถาบันการเงิน หรือธนาคารของรัฐ เป็นต้น แล้วนำเงินที่ได้จากการระดมทุนดังกล่าวไปใช้จ่ายในโครงการ
ถาม :
โครงการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ตั้งอยู่ที่ไหน และมีพื้นที่จำนวนเท่าใด
ตอบ :
โครงการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ตั้งอยู่ในที่ดินราชพัสดุ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร บนที่ดินประมาณ 297 ไร่ แบ่งเป็น 3 โซน โซน A ซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยงานด้านยุติธรรม มีเนื้อที่ 100 ไร่ โซน B ซึ่งเป็นที่ตั้งของหน่วยงานต่างๆ มากกว่า 40 หน่วยงาน มีเนื้อที่ 197 ไร่
ถาม :
โครงการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ มีระยะเวลาในการก่อสร้างเท่าใด เริ่มต้นโครงการเมื่อไร และจะเสร็จสิ้นเมื่อไร
ตอบ :
โครงการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ มีระยะเวลาในการออกแบบและก่อสร้างประมาณ 46 เดือน โดยจะเริ่มงานก่อสร้างภายในปี 2548 กำหนดแล้วเสร็จพร้อมให้หน่วยงานเข้าใช้พื้นที่อาคาร ได้ตั้งแต่ประมาณกลางปี 2551 พร้อมทั้งเริ่มชำระคืนเงินลงทุน ในกลางปี 2551 โดยจะต้องชำระคืนเงินลงทุนได้ทั้งหมดภายในปี 2580 รวมระยะเวลาดำเนินการทั้งสิ้นประมาณ 33 ปี
ถาม :
โครงการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ มีมูลค่าประมาณเท่าไร
ตอบ :
โครงการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ มีมูลค่าก่อสร้างโครงการประมาณ 19,016 ล้านบาท
ถาม :
โครงการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ มีลักษณะเด่นที่น่าสนใจอย่างไรบ้าง
ตอบ :
เป็นโครงการที่ไม่ใช้งบประมาณแผ่นดินในการก่อสร้าง แต่ใช้วิธีแปลงสินทรัพย์ เป็นหลักทรัพย์ (Securitization)เป็นศูนย์ราชการขนาดใหญ่ที่ทันสมัย เป็นแบบอย่างของการประหยัดพลังงานจาก การบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพเป็นอาคารที่รวมมากกว่า 40 หน่วยงานไว้ในพื้นที่เดียวกัน สะดวกต่อการประสานงานระหว่างหน่วยงาน และการให้บริการประชาชน
ถาม :
โครงการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ มีความแตกต่างจากโครงการในอดีตที่กรมธนารักษ์เคยทำ อย่างไรบ้าง
ตอบ :
โครงการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถือเป็นมิติใหม่ของการจัดสรรที่ทำการของส่วนราชการ แตกต่างจากหลักการและแนวทางในการปฏิบัติงานที่กรมธนารักษ์เคยทำในอดีต ซึ่งเป็นการจัดให้ใช้ ที่ราชพัสดุ และส่วนราชการเป็นผู้จัดหางบประมาณและก่อสร้างอาคารเอง แต่โครงการนี้ กรมธนารักษ์เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้างอาคารให้ส่วนราชการเช่าใช้พื้นที่ร่วมกัน โดยจัดตั้ง บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด มาทำหน้าที่ลงทุนบริหารงานก่อสร้างและบริหารจัดการ โครงการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ เป็นเวลา 30 ปีจากนั้นจะโอนเป็นทรัพย์สินของกระทรวงการคลัง
ถาม :
รัฐและหน่วยราชการจะได้รับประโยชน์อะไรจากโครงการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ บ้าง
ตอบ :
รัฐและหน่วยราชการจะได้รับประโยชน์จากโครงการศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ดังนี้ มีศูนย์ราชการที่เป็นอาคารประหยัดพลังงาน มีเทคโนโลยีทันสมัยหน่วยงานมีความสะดวกในการประสานงานและให้บริการกับประชาชนประหยัดค่าเช่าสำนักงานที่หน่วยราชการบางหน่วยเช่าพื้นที่เอกชนประมาณ 427 ล้านบาท/ ปี หรือ 16,400 ล้านบาทในระยะเวลา 30 ปีเพิ่มรายได้ให้รัฐประมาณ 9,882 ล้านบาท จากค่าเช่าที่ดิน 743 ล้านบาท ค่าภาษี 7,702 ล้านบาท และค่าธรรมเนียม 1,437 ล้านบาท พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่หน่วยราชการใช้ที่ราชพัสดุอยู่เดิมให้เกิดประโยชน์ ที่เหมาะสมตามศักยภาพ- อสังหาริมทรัพย์ทั้งหมดเป็นของรัฐเมื่อสิ้นสุดโครงการ
ตัวช่วยเหลือการเข้าถึงเว็บไซต์ กล่องค้นหาในเว็บไซต์ เนื้อหาหลัก เมนูหลัก แผนผังเว็บไซต์